วันอังคารที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2559

การคัดแยกขยะมูลฝอย


วิธีการคัดแยกขยะมูลฝอย



การคัดแยกขยะมูลฝอย

                              เพื่อให้สะดวกแก่การนำไปกำจัด หรือนำไปใช้ประโยชน์ได้ใหม่โดย
ทั่วไปแยกเป็น 4 ประเภทคือ

1. ขยะเศษอาหาร หรือขยะที่เน่าเสียได้ เป็นขยะที่ย่อยสลายได้ง่าย มีความชื้นมาก ส่งกลิ่นเหม็นได้อย่าง รวดเร็ว ขยะประเภทนี้กำจัดและนำไปใช้ประโยชน์ได้โดยการหมักทำปุ๋ย ใช้ในการเกษตรได้ ตัวอย่างขยะเศษอาหาร เช่น เศษผักผลไม้ เปลือกผลไม้ เนื้อสัตว์ เศษอาหาร เศษไม้ เศษใบไม้ ฯลฯ 
2. ขยะพิษ/อันตราย  ถือเป็นขยะอันตรายที่จำเป็นต้องแยกทิ้งต่างหาก เนื่องจากสมบัติทางกายภาพ เคมี และชีวภาพ เช่น ติดไฟง่าย ระเบิดได้ มีสารกัดกร่อน ขยะพิษ ได้แก่ ถ่านไฟฉาย หลอดไฟ กระป๋องยาฆ่าแมลง เครื่องสำอาง น้ำมันเครื่อง ภาชนะน้ำยาทำความสะอาดสุขภัณฑ์ ฯลฯ 
3. ขยะทั่วไป   เป็นขยะที่ไม่สามารถนำมารีไซเคิลได้ และไม่สามารถแยกเป็นประเภทต่างๆ ได้ขยะทั้ง 3 ประเภทข้างต้น ทำให้ต้องทิ้งเพื่อให้รถมาเก็บขนไปทำลายหรือกำจัดต่อไป เช่น เศษกระจกแตก เปลือกลูกอม ซองขนม ซองบะหมี่สำเร็จรูป ฯลฯ 
4. ขยะรีไซเคิล หรือขยะยังใช้ได้ ขยะประเภทนี้บางส่วนสามารถแยกนำมาแปรรูปกลับมาใช้ใหม่ได้ เป็นการประหยัดพลังงานและทรัพยากร ได้แก่ แก้ว พลาสติก กระดาษ กระป๋องอะลูมิเนียม กระป๋องเหล็ก เศษผ้า ฯลฯ

ที่มา http://www.lpn.co.th/th/press/viewitem.aspx?nid=12

เติมสีสันเพื่อสุขภาพ


ผักผลไม้ 5 สี
ในผักผลไม้มีไฟโตนิวเทรียนท์ (Phytonutrients) ที่มีประโยชน์ และเป็นแหล่งที่ให้สารต้านอนุมูลอิสระ การที่จะได้รับประโยชน์จากไฟโตนิวเทรียนท์ให้มากที่สุดควรเลือกกินผักผลไม้ที่มีสีสันแตกต่างกัน ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ
ผักผลไม้สีม่วง/น้ำเงิน
ต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผนังหลอดเลือด ป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดแดงแข็งตัว
ผักผลไม้สีขาว
กระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ ลดความดันโลหิตต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดระดับคลอเรสเตอรอลในเลือด
ผักผลไม้สีแดง
ต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและความจำเสื่อม
ผักผลไม้สีส้ม/เหลือง
ช่วยการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันดูแลสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงการบำรุงสายตา
ผักผลไม้สีเขียว
 ต้านอนุมูลอิสระ ลดโอกาสการเสื่อมของจอประสาทตา ช่วยการเจริญเติบโตของเซลล์ให้ทำงานตามปกติ
 ที่มา : http://www.greenintrend.com/

วันจันทร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2559

สับปะรดมีประโยชน์



สับปะรดดีต่อสุภาพสตรีและผู้ป่วย

          สับปะรดนอกจากจะหวานอร่อยแล้ว สับปะรดยังดีต่อสุขภาพ ประโยชน์ของสับปะรดดีต่อสุขภาพ สตรีและผู้ป่วยอีกด้วย

          สำหรับสุภาพสตรีที่มีอาการปวดประจำเดือน อาการอักเสบจากริดสีดวงทวาร หรือผู้ป่วยอาการที่เกี่ยวข้องกับเส้นเลือดดำ โรคกระดูก ข้ออักเสบ รูมาตอยด์ เก๊าท์ หากรับประทานสับปะรดเป็นประจำ จะช่วยบรรเทาอาการต่างๆเหล่านี้ได้ รวมไปถึงสมานแผลให้ทุเลาได้เร็วขึ้นด้วย

วิธีรับประทานสับปะรดให้ถูกต้อง
   
          สำหรับการรับประทานที่ถูกวิธีนะ ให้ใช้มีดใหญ่เฉือนเปลือกออกจนหมด จากนั้นจึงใช้มีดตัดส่วนตาออกเป็นร่องเฉียงเป็นแถว ๆ เอาส่วนตาออกแล้วตัดเป็นชิ้น แล้วเอาเกลือแกงทาให้ทั่วหรือมิฉะนั้นก็แช่ในน้ำเกลืออ่อน ๆ ประมาณ 2-3 นาที การทาเกลือหรือแช่ในน้ำเกลือนอกจากจะทำให้รสชาติดีขึ้นแล้วยังเป็นการทำลายสารจำพวก Glycoalkaoid และเอ็มไซม์บางชนิด ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิดอาการแพ้ได้หลังรับประทานคะ

  ข้อแนะนำของสับปะรด
          ถึงแม้ว่าสับปะรด จะเป็นผลไม้ที่เยี่ยมยอดเลยก็ว่าได้สำหรับเรา แต่หากรับประทานในปริมาณมากๆ อาจเป็นผลเสียต่อร่างกายได้ ควรรับประทานสับปะรด ควบคู่ไปกับการทานอาหาร และผักผลไม้อื่นๆด้วย อย่าลืมบอกต่อเคล็ดลับดีๆให้เพื่อนๆต่อได้นะ




 


วิถีชีวิตพอเพียง


สภาวะโลกร้อน

"ภาวะโลกร้อน"


ภาวะโลกร้อน


* ปัจจุบันโลกเราเกิดปัญหาจากธรรมชาติมายมายอาทิเช่น แผนดินไหว สึนามิ น้ำท่วม ดินถล่ม พายุถล่มและอีกปัญหาที่สำคัญคือภาวะโลกร้อน ซึ่งเป็นปัญหาที่มีมานานส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตบนโลกเป็นอย่างมาก
ภาวะโลกร้อน คือ การที่ อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มขึ้นจากภาวะเรือน กระจก หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ ว่า Green house effect ซึ่งมีต้นเหตุจากการที่มนุษย์ ได้เพิ่มปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จาก การเผาไหม้เชื้อเพลิงต่างๆ การขนส่ง และ การผลิตในโรงงานอุตสาหกรรม นอกจากนั้น มนุษย์เรายังได้เพิ่มก๊าซกลุ่มไนตรัสออกไซด์ และคลอโรฟลูโรคาร์บอน ( CFC) เข้าไปอีก ด้วย พร้อมๆกับการที่เราตัดและทำลาย ป่าไม้จำนวนมหาศาลเพื่อสร้างสิ่งอำนวย ความสะดวกให้แก่มนุษย์ ทำให้กลไกใน การดึงเอาก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกไป จากระบบบรรยากาศถูกลดทอนประสิทธิ ภาพลง และในที่สุดสิ่งต่างๆที่เราได้กระทำ ต่อโลกได้หวนกลับมาสู่เราในลักษณะของ ภาวะโลกร้อน



Cr.http://tech.mthai.com/tips-technic/40583.html
 ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดสภาวะโลกร้อน
      ซี่งปรากฏการณ์ทั้งหลายเกิดจากภาวะโลกร้อนขึ้นที่มีมูลเหตุมาจากการปล่อยก๊าซพิษต่าง ๆ จากโรงงานอุตสาหกรรม ทำให้แสงอาทิตย์ส่องทะลุผ่านชั้นบรรยากาศมาสู่พื้นโลกได้มากขึ้น ซึ่งนั่นเป็นที่รู้จักกันโดยเรียกว่า สภาวะเรือนกระจกก๊าาซเรือนกระจกที่สำคัญ 6 ชนิด ที่จะต้องลดการปล่อยได้แก่ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ( CO2)  ก๊าซมีเทน ( CH4)   ก๊าซไนตรัสออกไซด์ ( N2O)  ก๊าซไฮโดรฟลูโรคาร์บอน ( HFCS)  ก๊าซเปอร์ฟลูโรคาร์บอน ( CFCS) และก๊าซซัลเฟอร์เฮกซ่าฟลูโอโรด์ ( SF6 )
 ผลกระทบจากสภาวะโลกร้อน
1. ผลกระทบด้านนิเวศวิทยา
     แถบขั้วโลกได้รับผลกระทบมากสุดและก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย  โดยเฉพาะอย่างยิ่งภูเขาน้ำแข็ง ก้อนน้ำแข็งจะละลายอย่างรวดเร็ว ทำให้ระดับน้ำทะเลทางขั้วโลกเพิ่มขึ้น และไหลลงสู่ทั่วโลกทำให้เกิดน้ำท่วมได้ทุกทวีปนอกจากนี้จะพลอยทำให้สัตว์ทางทะเลเสียชีวิตเพราะระบบนิเวศเปลี่ยนแปลง


Cr.http://globalwarming606.blogspot.com/p/blog-page_08.html
2. ผลกระทบด้านเศรษฐกิจ
               รัฐที่เป็นเกาะเล็ก ๆ ของทวีปอเมริกาจะได้รับผลจากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นกัดกร่อนชายฝั่ง จะสร้างความเสียหายแก่ระบบนิเวศ แนวปะการังจะถูกทำลาย ปลาทะเลประสบปัญหา เนื่องจากระบบนิเวศที่แปรเปลี่ยนไป ธุรกิจท่องเที่ยวทางทะเลที่สำคัญจะสูญเสียรายได้มหาศาล
3. ผลกระทบด้านสุขภาพ 
 * ภาวะโลกร้อนไม่เพียง ทำให้ระบบนิเวศเปลี่ยนแปลงไปแต่มีสิ่งซ่อนเร้นที่แอบแฝงมาพร้อม ปรากฏการณ์นี้ด้วยว่าโลกร้อนขึ้นจะสร้างสภาวะที่พอเหมาะพอควรให้เชื้อโรคเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว
 จะป้องกันได้อย่างไร   ได้มีผู้แนะนำวิธีการช่วยป้องกันสภาวะโลกร้อนไว้ดังนี้
1.  ลดระดับการใช้งานเครื่องใช้ ไฟฟ้าลง เช่น เพิ่มความร้อนของเครื่องปรับอากาศในสำนักงานหรือที่พักอาศัยลงสักหนึ่งองศา หรือ ปิดไฟขณะไม่ใช้ งาน
2. นำกระดาษหรือภาชนะบรรจุอื่นๆ กลับไปใช้ใหม่ พยายามซื้อสิ่งของที่มีอายุ การใช้งานนานๆ จะช่วยลดการใช้พลังงานของโลกอย่างมากมาย
3. รักษาป่าไม้ให้ได้มากที่สุด และลดหรืองดการจัดซื้อสิ่งของหรือเฟอร์นิเจอร์  ต่างๆ ที่ทำจากไม้ที่ตัดเอามาจากป่า เพื่อปล่อยให้ต้นไม้และป่าไม้เหล่านี้ได้ทำหน้าที่การ เป็นปอดของโลกสืบไป
4. ลดการใช้น้ำมัน จากการขับขี่ยวดยานพาหนะ 


Cr.http://www.bcn.ac.th/web/2007/S_Product/rokron2.htm



Cr.http://www.thairath.co.th/content/295979

วิดิโอ ภาวะโลกร้อน



Cr.https://www.youtube.com/watch?v=FXjt2aQg8g0

ประโยน์เห็ดนางรม

เห็ดนางรม
                        เป็นเห็ดที่มีสีขาวสะอาด มีคุณค่าทางอาหารสูง รสชาติหอมหวาน มีสารที่มีสรรพคุณเป็นยารักษาโรค ไม่แพ้เห็ดชานิดอื่น ๆ  มีคุณค่าทางอาหารสูง โดยเฉพาะ โปรตีน คาร์โบร์ไฮเดรต วิตามิน ให้พลังงานค่อนข้างสูง 




เห็ดนางรมมีถิ่นกำเนิดอยู่ทางประเทศแถบยุโรป เจริญเติบโตได้ดีในไม้โอ๊ค ไม้เมเปิ้ล และสามารถเจริญเติบโตได้ดีในเขตอบอุ่นและสามารถปรับตัวและเจริญเติบโตได้ดีในประเทศไทย เป็นเห็ดที่มีสีขาวสะอาด มีคุณค่าทางอาหารสูง และมีรสชาติหอมหวาน มีสารที่มีสรรพคุณเป็นยารักษาโรคไม่แพ้เห็ดชนิดอื่น ๆ มีคุณค่าทางอาหารสูงโดยเฉพาะโปรตีน คาร์โบร์ไฮเดรต วิตามิน ให้พลังงานค่อนข้างสูง มีกรดโฟลิคสูงกว่าพืชผักและเนื้อสัตว์ ซึ่งป้องกันโรคโลหิตจาง ได้ จึงเหมาะสำหรับผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และเหมาะต่อผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักเพราะเห็ดมีปริมาณของไขมันน้อย และมีปริมาณโซเดียมตำ่